วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

LING BLOG

Blog ของเพื่อนในห้อง ม.4/1

เลขที่ 1 :
เลขที่ 2 : http://www.bedrockman.blogspot.com/
เลขที่ 3 : http://potatopotat.blogspot.com/
เลขที่ 4 : http://pattapattap.blogspot.com/
เลขที่ 5 : http://satitm4.blogspot.com/
...
เลขที่ 6 : http://patsasimildddd.blogspot.com/
เลขที่ 7 : http://seungchabe.blogspot.com/
เลขที่ 8 : http://thanawadee4108.blogspot.com/
เลขที่ 9 : http://profilepround.blogspot.com/
เลขที่ 10: http://pimchanajenny.blogspot.com/
เลขที่ 11:
เลขที่ 12: http://chanawee.webs.com/
เลขที่ 13: http://cuolionet12.blogspot.com/
เลขที่ 14: http://52654258.blogspot.com/
เลขที่ 15: http://nooknaruemonn.blogspot.com/2012/09/about-me.html
เลขที่ 16 : http://nook62224.blogspot.com/
เลขที่ 17 : http://phanarai4117love.blogspot.com/2012/09/permalink-to-dakota-rose.html
เลขที่ 18 : http://passornsss.blogspot.com/
เลขที่ 19 : http://wakefresh.blogspot.com/
เลขที่ 20 :http://jidapaswork.blogspot.com/
เลขที่ 21 :http://ppondnuttawat.webs.com/
เลขที่ 22 : http://patsornpatsorn22.blogspot.com/
เลขที 23 : http://veryfunprofile.blogspot.com/
เลขที่ 24 : http://jukkaphanz.blogspot.com/
เลขที 25 : http://web4125.blogspot.com/2012/09/17-55.html
เลขที่ 26 :http://jutamart4126.blogspot.com/
เลขที่ 27 : http://gambonjour4127.blogspot.com/
เลขที่ 28 :
เลขที่ 29 : http://doraeamon.blogspot.com/
เลขที่ 30 : http://pantanutps.blogspot.com/
เลขที่ 31 : http://goodstoryu.blogspot.com/
เลขที่ 32 :http://gramgram1.blogspot.com/
เลขที่ 33 : http://metussss.webs.com/
เลขที่ 34 : http://sarut.webs.com/
เลขที่ 35 :
เลขที่ 36 :
เลขที่ 37 :http://ausmasealx.blogspot.com/

ไดอารี่ 4




ไดอารี่   4


วันที่  17  กันยายน  2555
           วันนี้เป็นวันจันทร์  ที่แสนจะ.....
                                      ตอนเช้า  ฉันถูกปลุกแต่เช้า  ด้วยนาฬิกาปลุก   และแม่ 


     ฉันตื่นด้วยอาการงัวเงีย
                              และเข้าไปอาบน้ำอย่างเร่งด่วน เพราะ  สายแว้ววว!!!!                 

 ฉันกินข้าวและขึ้นรถไปโรงเรียน
                                      เช้าวันนี้เราได้ทำบุญ  และทำกิจกรรมร่วมกับน้องๆชั้นอื่น
หลังจากที่เราทำบุญเสร็จเราก็แยกกันไปเรียนชมรม
                       ตอนบ่ายฉันก็ได้เรียนวิชาของแผน และวิชาสุดท้ายคือวิชาเคมี  

    มันทำให้ฉันง่วงมาก
                                                           พอเลิกเรียนฉันก็ขึ้นรถกลับบ้าน
            พอถึงบ้านแล้ว  ฉันก็กินข้าว อาบน้ำ และทำการบ้าน เตรียมตัวสอบในวันพรุ่งนี้

และฉันก็เข้านอน  เพื่อเตรียมรับการสอบ  และการเรียนในวันพรุ่งนี้ 





พรุ่งนี้ต้องทำให้ดีที่สุด


Fighting....









ไดอารี่ 3



ไดอารี่  3

 วันที่  16   กันยายน   2555

                          วันนี้เป็นวันอาทิตย์  ที่ไม่อยากให้ถึง  เพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันจันทร์แล้ว 

  ตอนเช้าฉันต้องตื่น  และนั่งรถไปเรียนพิเศษแต่เช้า               
     
                                                                          เมื่อฉันเรียนเสร็จฉันก็กลับบ้าน      
และฉันก็ต้องตกใจ  เพราะ น้องชายของพ่อมาเยี่ยมหลังจากที่ไม่เจอกันนาน  


หลังจากที่อากลับไปแล้ว   ฉันก็ทำการบ้านที่ยังไม่เสร็จต่อ ด้วยความขยันขันแข็ง 



แล้วฉันก็กินข้าว   อาบน้ำ   และดูทีวี  



หลังจากนั้น  ฉันก็เข้านอนเพื่อเตรียมตัวที่จะเผชิญต่อสิ่งต่างๆในวันพรุ่งนี้  





สู้ๆ....








  

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ไดอารี่ 2



ไดอารี่  2


วันที่  15  กันยายน    2555


                 

  วันนี้เป็นวันเสาร์    เพราะ แม่มาปลุก และขอร้องแกมบังคับ 


                                                                   ฉันจึงต้องตื่นแต่เช้า  (เกือบสาย )    



เพื่อลงไปช่วยแม่ทำงานบ้าน 


                                         เมื่อทำเสร็จ  ฉันก็ไปกินข้าว          เพื่อเตรียมไปเรียนพิเศษ



ฉันเรียนพิเศษจนถึงเที่ยง    ทำให้ฉันรู้สึกว่า  "ม่ายยยหวายแว้วววว..."     



                        ฉันจึงนอนนิดหน่อย   


                                                      แล้วฉันก็ตื่นขึ้นมาทำการบ้านด้วยพลังอันแรงกล้า 



และนี้คือไดอารี่วันเสาร์ที่น่าสนุก(ประชด)ของฉัน 









วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

ไดอารี่ 1




ไดอารี่ 1



วันที่  14   กันยายน   2555



          วันนี้เป็นวันศุกร์  แต่ไม่ค่อยจะสุขตามชื่อสักเท่าไร  เป็นวันที่ฉันเหนื่อยที่สุดในเทอมนี้


เพราะว่ามีการสอบในวิชาที่ฉันไม่ถนัด    ฉันคิดว่ามันยากมากกกกกกก..สำหรับฉัน




แต่เพื่อนๆ ก็ให้กำลังใจ และช่วยเหลือฉัน  
ทำให้คิดว่าฉันต้องเข้มแข็งและควรมีความกล้ามากกว่านี้  




 เมื่อสอบแล้วฉันรู้สึกเหมือนฉันบินได้      มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม  



ฉันต้องขอบคุณเพื่อนๆ   



 และฉันคิดว่าหลังจากนี้ฉันต้องมีความกล้าในการทำสิ่งต่างๆต่อไป   





















วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

บทความ3



นิทานขาว-ดำ

 


เศรษฐีคนหนึ่งชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง เขาเชิญชาวนากับลูกสาวไปที่สวนในคฤหาสน์ของ

เขา เป็นกรวดกว้างใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดำกับสีขาว


เศรษฐีบอกชาวนาว่า “ท่านเป็นหนี้ข้าจำนวนหนึ่ง แต่หากท่านยกลูกสาวให้ ข้าจะยกหนีสินให้ทั้งหมด”


ชาวนาไม่ตกลง


เศรษฐีบอกว่า “ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม ข้าจะหยิบกรวดสองก้อนขึ้นมาใส่ในถุงผ้านี้ ก้อนหนึ่งสี

ดำ ก้อนหนึ่งสีขาว ให้ลูกสาวของท่านหยิบก้อนกรวดจากถุงนี้ หากนางหยิบได้ก้อนสีขาว ข้าจะยก

หนี้สินให้ท่าน และนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า แต่หากนางหยิบได้ก้อนสีดำ นางต้องแต่งงานกับข้า และ

แน่นอนข้าจะยกหนี้ให้ท่านด้วย”


ชาวนาตกลง


เศรษฐีหยิบกรวดสองก้นใส่ในถุงผ้า หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่า กรวดทั้งสองก้อนนั้นเป็นสีดำ


เธอจะทำอย่างไร?


หากเธอไม่เปิดเผยความจริง ก็ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกง หากเธอเปิดเผยความจริง เศรษฐีย่อมเสีย

หน้า และยกเลิกเกมนี้ แต่บิดาของเธอก็ยังคงเป็นหนี้เศรษฐีต่อไปอีกนาน


ลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน


พลันเธอปล่อยกรวดในมือร่วงลงสู่พื้น กลืนหายไปในสีดำและสีขาวของสวนกรวด


เธอมองหน้าเศรษฐี เอ่ยว่า “ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอปล่อยหินร่วงหล่น แต่ไม่เป็นไรในเมื่อท่านใส่กรวดสี

ขาวกับสีดำอย่างละหนึ่งก้อนลงไปในถุงนี้ ดังนั้นเมื่อเราเปิดถุงออกดูกรวดก้อนที่เหลือ ก็ย่อมรู้ทันทีว่ากรวดที่ข้าหยิบไปเมื่อครู่เป็นสีอะไร”


ที่ก้นถุงเป็นกรวดสีดำ


“…ดังนั้นกรวดก้อนที่ข้าทำตกย่อมเป็นสีขาว”


ชาวนาพ้นสภาพลูกหนี้ และลูกสาวไม่ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกงคนนั้น


เราส่วนใหญ่ถูกสอนมาให้มองปัญหาแบบขาวกับดำ


แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้อย่างขาวกับดำเสมอไป


ในทางตรงกันข้าม หากเราลองมองต่างมุม จะพบหนทางการแก้ปัญหามีมากกว่าหนึ่งสายเสมอ และการ

ยืดหยุ่นพลิกแพลงไปตามสถานการณ์เป็นวิธีการหนึ่ง


โลกไม่มีสีขาวกับดำ






บทความ2

 

เรื่องฮาๆ ของอวัยวะในร่างกาย


ตา >> อวัยวะที่ใช้ในการมอง  มักจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี

หู >> อวัยวะที่ใช้ในการฟัง  ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา เพื่อสะดวกในการพกพา

ปาก >>  อวัยวะที่ใช้ในการพูด   ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ

จมูก >> อวัยวะที่ใช้ในการหายใจ  ถ้ายื่นเข้าไปในเรื่องของคนอื่นเขาเรียกว่า ..แส่

บ่า-ไหล่ >> อวัยวะที่อยู่เคียงคู่กันมา ดังที่เรียกว่า “เคียงบ่าเคียงไหล่” มีให้คนคนขี้เหงาได้ซบ ถ้าเป็น
จับกังก็ใช้แบกหาม ข้าวสาร ปูน…

หัวใจ >> อวัยวะที่ใช้สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย คนที่เจ้าชู้ส่วนใหญ่มักจะเก็บตัวจริงไว้ แล้วถ่ายเอกสารไว้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ

ปอด >> อวัยวะที่ใช้ฟอกโลหิต  แต่ถ้าปอดแหกจะเก็บความกล้าหาญไว้ไม่ได้

นม >> อวัยวะที่สุภาพสตรีอยากให้ยื่นไปข้างหน้ามากกว่าพุง

ศอก >> ข้อต่อระหว่างแขนท่อนบนกับแขนท่อนล่าง ใช้เป็นอาวุธประจำกาย หรือใช้สำหรับรองน้ำดื่มสำหรับหญิงที่มาทีหลัง

ตัว >> เป็นชิ้นส่วนที่ใหญ่ของร่างกายมีไว้ให้ส่วนอื่นได้พักพิง มักจะลืมกันมากในเวลาได้ดิบได้ดี

สะดือ >> เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ตอนอยู่ในครรภ์ เมื่อใดใช้วัดความสุภาพ…ถ้าอยู่ต่ำกว่าสะดือ ถือว่าทะลึ่ง

ขาอ่อน >> เป็นส่วนที่เชื่อมต่อมาจากสะโพก  มักนิยมใช้ประกวด เพราะมองเห็นง่ายกว่าสมอง

หัวเข่า >> เป็นข้อต่อระหว่างขากับแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนของผู้ชาย และบางคนใช้เช็ดน้ำตาเวลาเศร้า โดยเฉพาะคนที่แอบรักผัวชาวบ้านเขา

ขนหน้าแข้ง >> ใช้วัดระดับฐานะทางการเงิน ยิ่งรวยมาก ขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย

เท้า >> เป็นอวัยวะที่ใช้ในการยืน  เดิน  หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก หรือที่เรียกว่ากันทั่วไปว่า..ถีบ



บทความ1



นิทานสอนใจ  เรื่อง  นก วัวและแมว



ผมได้ยินเรื่องเล่าที่มีตัวละครเป็นสัตว์ 3 ตัว
นก วัวและแมว เป็นครั้งแรกจากคุณกฤษณะ กฤตมโนรถ
หลังจากนั้น ได้พบและอ่านบนเวบไซต์ต่างๆ อีกหลายเวอร์ชั่น
ซึ่งแตกต่างกันออกไปในรายละเอียด
อย่าว่ากันเลยนะ ถ้าผมจะเล่า…อย่างที่ผมอยากจะเล่า
แทนที่จะพยายามเล่าตามเวอร์ชั่นใดเวอร์ชั่นหนึ่ง
เช้าวันนั้นอากาศหนาวเย็นสุดๆ เสียงลมพัดอู้ข้ามท้องทุ่งโล่ง
พัดเอาเปลือกและใบข้าวโพดหมุนเคว้งคว้างไปมา
ในขณะที่ลมกระโชกเสียงหวีดดังและกระแทกประตูโรงนาดัง..กึงกัง..กึงกัง..
นกน้อยตัวหนึ่งต่อสู้อย่างสิ้นหวังที่จะบินข้ามทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์
และตกลงใกล้ๆโรงนานั้น
ตัวนกน้อยนั้น..เปียกปอนสกปรก
เพื่อจะข้ามทุ่งหญ้าไปยังรังของมันให้ได้
มันได้พยายามบินขึ้นและตกลงมาแล้วหลายครั้ง
นกน้อยเหน็บหนาวและสิ้นเรี่ยวแรง..รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตาย
วัวตัวหนึ่งอยู่ใกล้ๆ จ้องมองที่นกน้อยและ
เคลื่อนตัวหันก้นของมันมาทางนก ในขณะที่ปากเคี้ยวเอื้อง..หยับ..หยับ..อยู่
ในขณะที่นกกำลังหวาดกลัวสุดขีด กลัวว่าจะถูกวัวเหยียบ
วัวก็ถ่ายมูลก้อนเบ้อเริ่มลงบนตัวนก
ในตอนแรก นกน้อยสุดจะ “เซ็ง” หดหู่และสิ้นหวัง
มันโกรธแค้นวัวเป็นที่สุด..ที่ทำเหมือน..ซ้ำเติมให้ยิ่งทุกข์ยาก
มันพยายามต่อสู้ดิ้นรนที่จะให้หลุดออกมาจากกองขี้วัว
แต่เพียงครู่เดียวก็เริ่มรู้สึกว่า มันไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไปแล้ว
ขี้ที่เพิ่งออกจากตัววัว มีความร้อน
พอจะทำให้ร่างกายของเจ้านกน้อยที่น่าสงสารอบอุ่นขึ้น
นกน้อย ที่คิดว่าตัวเองกำลังจะตายไปแล้วด้วยสภาพอากาศอันเลวร้าย
กำลังจะรอดชีวิต…ด้วยขี้วัวโสโครก
ที่ไม่ทราบเลยว่าตกลงบนตัวของมันด้วยเจตนาของวัวหรือไม่?
เจ้านกรู้สึกเป็นสุขเหลือเกิน เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
เมื่อกระแสลมสงบลง มันจึงโผล่หัวออกมาจากกองขี้วัว
และเริ่มต้นร้องเพลงด้วยความลิงโลดใจ
โชคร้ายที่แมวในโรงนานั้นได้ยินเสียงเพลง
จึงคาบเอานกออกมาจากกองขี้วัวและกินเสีย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ผู้ที่นำ ความยากลำบากมาให้อาจไม่ใช่ เพื่อทำร้ายเรา
ส่วนผู้ที่นำเราออกจาก ความยากลำบากก็อาจไม่ใช่ เพื่อที่จะช่วยเรา.
และเมื่อได้ลิ้มรส ความสุข ก็อย่าด่วนลิงโลดใจจนเกินไป
ผมคิดว่า หลายท่านได้อ่านเรื่องนี้มาบ้างแล้ว บอกหน่อยสิครับว่า..ท่านคิดอย่างไร??
ถ้า กองขี้วัว นั้นคือ หน้าที่ การงานและปัญหา ที่ดูสกปรกและยุ่งยาก น่าลำบากใจ
เรายังจะคุย..เรื่องนี้กันต่อ..ในตอน “นิทานสอนใจ”

profile







นางสาว ชัญญานุช     ปัญญาสุขสกุล      ม.4/1    เลขที่    23